Drop wire VS Small fig.8 fiber optic แตกต่างกันอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไร

Drop wire VS Small fig.8 fiber optic แตกต่างกันอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไร

 

Drop wire vs Small fig.8 fiber optic แตกต่างกันอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไร

Drop wire fiber optic cable เป็นสายที่นิยมใช้งานแบบแขวนอากาศ ตามมาตรฐาน มอก.2166-2548 ทำไม ถึงต้องเรียกว่า Drop wire ที่มาที่ไปก็คือ ชื่อเรียก จะคล้ายกับสาย

ดรอบไวด์ โทรศัพท์ ถ้าใครเคยใช้งานหรือรู้จักงานสายโทรศัพท์ ชนิดภายอกอาคาร แบบ 2 เส้น ที่เราเห็นกันอยู่ประจำ จะมีเส้นลวด 1 เส้น ยึดติดกับตัวสาย ซึ่งก็จะคล้ายๆกับ

สาย Drop wire ของไฟเบอร์ออพติค นั่นเอง แค่เปลี่ยนจากแกนทองแดง มาเป็นแกนแท่งแก้ว ขนาดของสายก็จะไม่ใหญ่กว่าสายโทรศัพท์มากนัก

ประโยชน์ของสายชนิดนี้ ยังคงรูปแบบการใช้งานที่ติดตั้งเหมือนเดิม แบบแขวนอากาศเพราะสายจะมีขนาดเล็ก และมีเส้น ลวด 1 เส้น ที่ยึดติดกับตัวสาย เพื่อที่เราจะได้

แขวนตามเสาไฟฟ้า หรือ แขวนตาม ผนังอาคาร ได้สะดวก และรวดเร็ว ในการติดตั้ง สายชนิดนี้ จะมีจำนวน Core(เส้น) ตั้งแต่ 4,6,8,12 Core มากที่สุด คือ 12 เพราะว่า

ท่อ(Tube) สามารถใส่ได้แค่ 12 Core ไม่สามารถใส่ได้มากกว่า 1 ท่อ (Tube) หรือมากกว่า 12 core

         

เพราะจะสับสนเรื่องของมาตรฐานของ code สี ที่มีมากกว่า 12 สี เพราะการใช้รหัสสีที่ตรงตามมาตรฐาน EIA/TIA.598 A จะมีมาตรฐานที่ 12 สีเท่านั้น เพราะถ้าเราใส่ไปที่

24 Core (เส้น) ผู้ใช้งานหรือช่าง จะสับสนในการติดตั้งเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะมีสี 12 สี ถึง 2 ชุด ทำให้ไม่สามารถระบุ ต้น ปลายได้ตรงกัน ในการติดตั้ง

 

 

 

สาย Small Fig.8 หรือ Figure8 คือสาย ที่มีรูปหน้าตัด คล้ายกับ รูปเลข 8 นั่นเอง ซึ่งเป็นสายที่เหมาะกับการใช้งานแบบแขวนอากาศ ตามมาตรฐาน มอก.2166-2548 

Small Fig.8  จะเป็นสายที่มีขนาดเล็กกว่าชนิด Fig.8 มาตรฐาน TOT หรือ CAT หรือ ทั่วไป ซึ่งจะมีขนาดเล็ก ตั้งแต่ เส้นลวดที่ตีเกลียวกัน และ ขนาดความโต ของสาย 

Small Fig.8 ชนิดนี้ จะมีการออกแบบที่มี Armoured หรือ เกราะป้องกันโลหะ ที่แข็งแรง

 

ประโยชน์ของสาย ชนิดนี้ คือ ติดตั้งได้ง่าย แข็งแรง มีเส้นลวดพันเกลี่ยกันถึง  7 เส้น ที่สามารถดึงได้ไกล ในระยะช่วงเสาไฟฟ้ายาวๆ ไม่ทำให้ แท่งแก้วด้านในมีปัญหา

หรือกระทบ อีกสิ่งที่มีประโยชน์ คือ เกราะป้องกันโลหะ ที่กันกระรอกแทะ และ สัตย์ชนิดอื่น ได้ดี หรือ ในสภาพแวดล้อมที่เป็นป่า หรือ ในพื้นที่ที่มีกระรอกจำนวนมาก

 

สายชนิดนี้ จะมีจำนวน Core(เส้น) ตั้งแต่ 4.6,8,12 Core มากที่สุด คือ 12 เพราะว่า ท่อ(Tube) สามารถใส่ได้แค่ 12 Core ไม่สามารถใส่ได้มากกว่า 1 ท่อ (Tube)

หรือมากกว่า 12 Core ขึ้นไปเพราะจะสับสนเรื่อง code สี เพราะมาตรฐาน รหัสสีมีได้แค่  12 สี ซึ่งจะเหมือนกับชนิด Drop wire

 

ดังนั้นการที่จะเลือกใช้งานสายเคเบิ้ลไฟเบอร์ออพติค ที่ถูกต้องหรือเหมาะสมกับลักษณะงานนั้น จึงจำเป็นจะต้องรู้ถึง สภาพแวดล้อมหน้างานที่จะติดตั้งสายเคเบิ้ลก่อน

เพื่อที่เราจะได้เลือกสายได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม กับงานนั้นๆ ต่อไป

 

By BISMON




Recomended Article : บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ

๐ สายแลน(UTP)Un-shielded Twisted pair กับ สาย Coaxial ใช้งานต่างกันอย่างไรในระบบ CCTV

๐ 10G RJ45 10GBase-T Ethernet to 10GBaseX SFP+ Slot Fiber Media Converter

๐ Optical Distribution Frame (ODF) ในการจัดเก็บสายไฟเบอร์ออฟติกมีกี่แบบ

๐ ประโยชน์การใช้งาน ODF-Rack mount Drawer 1U สำหรับงาน Fiber optic cable

๐ Fiber Cleaver สำหรับงานระบบ 5G และ FTTH cable