ตู้ Wall Rack Indoor และ Outdoor ต่างกันอย่างไร

ตู้ Wall Rack Indoor และ Outdoor ต่างกันอย่างไร

คงเป็นคำถามที่ ทีมออกแบบ ทั้งมือเก่า และมือใหม่ ถามเข้ามามากว่า ตู้ Wall Rack 19 นิ้ว ทั้งแบบใช้ภายในอาคาร(Indoor)และ ภายนอกอาคาร(Outdoor) นั้น มีความแตกต่าง เรื่องการใช้งาน และ รูปแบบบการติดตั้งอย่างไร บ้าง

 

อันดับแรก คือตู้ Wall Rack 19 นิ้ว แบบภายในอาคาร

 

ตู้ Wall Rack 19” แบบภายในอาคารคือ ตู้ ที่สามารถติดตั้งแบบแขวนผนัง ที่ถูกออกแบบมาให้มีเสายึดจับอุปกรณ์ไอที จำนวน 2 เสา ซ้ายและ ขวาของตู้ ติดตั้งอยู่ ด้านหน้า ที่มีขนาดความกว้าง 60 ซม. หรือ 19 นิ้ว อุปกรณ์ที่ติดตั้งในตู้ชนิดนี้ก็จะเป็นอุปกรณ์ประเภท Ethernet Switch 10/100/100Mbps, Chassis of Media converter, Server หรืออุปกรณ์อะไรก็ได้ที่สามารถยึดจับเสาตู้ Rack 19 นิ้วได้

 

แล้วทำไมต้องใช้แบบแขวนผนัง ก็เพราะว่า บางพื้นที่ ของห้องไอที หรือห้องบางประเภท ไม่มีพื้นที่ให้วางตู้กับพื้นได้ เลยจำเป็นจะต้อง ติดตั้งแบบแขวนผนังแทน เพราะจะได้มีพื้นที่ใช้สอย ด้านล่างได้ หรือ บางกรณีที่ต้องการติดตั้งแบบแขวนผนังเลยโดยตรง เพื่อความสะดวกต่อการซ่อมแซม บำรุงรักษา ให้ปลอดภัยจากหลายๆสิ่งด้านล่าง

ตู้ชนิด Wall Rack Indoor มีการออกแบบให้เลือกได้ที่ 3 ระดับความสูง ตั้งแต่ 6U(สูง35ซม.), 9U(สูง 48.5ซม.) และ 12U (สูง 62 ซม.) ตามลำดับ การที่ออกแบบมาหลากหลายขนาดก็เพื่อ ให้สามารถเลือกใช้งานได้มากหรือ น้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนของอุปกรณ์ที่จะไปติดตั้งอยู่ภายในตู้ ตัวตู้ออกแบบมาให้สามารถติดตั้ง พัดลมระบายอากาศได้ 2 ตัว เพื่อระบาย ความร้อนออกนอกตู้

อันดับสอง คือตู้ Wall Rack 19 นิ้ว แบบใช้งานภายนอกอาคาร

 

ตู้ Wall Rack 19” แบบภายนอกอาคาร คือ ตู้ที่สามารถติดตั้ง ภายนอกอาคารโดยเฉพาะ ทั้งกันแดด กันฝน นฝุ่น กันแมลง ต่างๆ และ เพื่อ ยึดอายุการใช้งานจองอุปกรณ์ ที่ใช้งานภายนอก ให้มี อายุการใช้งานนานๆ

 

ตัวตู้ภายนอกอาคาร(Outdoor type) ผลิตจากวัสดุ เหล็ก ที่เป็นชนิด EG (Electro Galvanized steel) และ ใช้สีแบบ Powder coating ชนิด ภายนอก โดยเฉพาะ จึงทำให้อายุการใช้งานนานกว่าตู้ทั่วไป

 

ตัวตู้แบบภายนอกอาคาร ยังคงสามารถติดตั้งแบบ แขวน ผนังได้เหมือนเดิม แต่จะติดตั้ง ภายนอกอาคารเป็นส่วนใหญ่ เช่น ใต้กันสาด อาคาร หรือ อาคาร ที่มีฝนสาดได้ หรือ กลางแจ้งในที่โล่ง เป้น ต้น

ตัวตู้ ออกแบบพิเศษมา เพื่อ สามารถติดตั้งกับ เสาไฟฟ้า และ เสากลม ได้ พร้อมรองรับการติดตั้งกับพื้น ฟุตบาท ถนน ที่จะต้องตั้งแท่นปูน เพื่อรองรับตู้ จึงครบทุกฟังก์ชั่นในการใช้งาน ภายนอกอาคาร

 

แล้วทำไม ต้องเลือกแบบภายนอกอาคาร แล้วระบบอะไร ที่ต้องเลือกตู้ชนิดนี้

 

การที่จะเลือกตู้ชนิดนี้ไปใช้งาน อันดับแรก ส่วนใหญ่ลูกค้าจะต้องรู้ก่อนว่า อุปกรณ์ภายในตู้ที่จะนำไปติดตั้งนั้นเป็นแบบไหน ติดตั้งกับตู้ที่มีเสา Rack 19 inch หรือไม่

ตัวอย่าง Ethernet Switch ที่สามารถติดตั้งภายนอกอาคารได้ และทนอุณหภูมิสูงได้ ถึง 70 องศา

 

ระบบที่นิยมชั้นแพร่หลาย ในปัจจุบัน เช่น ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และ ระบบ Internet WiFi และ FTTH

 

หรือระบบ บางอย่างที่ต้องการติดตั้งภายนอกก็สามารถรองรับได้ทั้งหมด

 

เราลองมาดูตารางเปรียบเทียบ ระหว่างตู้ Indoor และ Outdoor ว่าต่างกันตรงไหน บ้าง

ตู้ภายใช้ในอาคาร (Indoor type)

ตู้ภายใช้นอกอาคาร (Outdoor type)

มีขนาด ความสูง 6U, 9U, 12U และ

มีขนาด ความสูง 6U, 9U, 12U

มีเสา Rack หน้ากว้าง 60 ซม. หรือ 19 นิ้ว

มีเสา Rack หน้ากว้าง 60 ซม. หรือ 19 นิ้ว

มีพัดลม ระบายอากาศ ได้ 4 นิ้ว 2 ตัว

มีพัดลม ระบายอากาศ ได้ 4 นิ้ว 4 ตัว (บน-ล่าง)

มีเสา Rack 19 นิ้ว ได้ 2 เสา

รองรับเสา Rack 19 นิ้ว ได้ 4 เสา (เพื่อรับน้ำหนัก 4 มุม)

ติดตั้งแบบแขวนผนัง

ติดตั้งแบบแขวนผนัง, เสาไฟฟ้า,เสากลม, ตั้งพื้นปูน

ไม่กันน้ำ ไม่กันความชื้น

กันน้ำ กันฝน,ความชื้น และ กันฝุ่น IP55

ผลิตจากเหล็กขาวธรรมดาและสีภายใน

ผลิตจากเหล็ก EG และ สีภายนอกอาคาร

 

ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว เป็นเพียง เบื้องต้น ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

ส่วนสำคัญในการเลือกนั้น ต้องขึ้นอยู่กับประเภท ในการใช้งานเป็นหลัก ว่าเหมาะสมกับ Application แบบไหน และ คุ้มค่า การกับลงทุน ในการใช้งานระยะยาวหรือไม่

 

BY: BISMON

 




Recomended Article : บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ

๐ 19 inch Industrial Ethernet Rackmount Switches แบบใช้งานภายนอกอาคาร(Outdoor)

๐ มอก.2165-2561 สายเคเบิลไฟเบอร์ออฟติก สำหรับร้อยท่อฝังดินโดยตรงและแขวนในอากาศโดยใช้ลวดพัน

๐ สินค้า ZYXEL มีจำหน่ายแล้วที่ BISMON!

๐ SFP+ และ QSFP Transceiver module อย่างไหนเร็วกว่ากัน!?

๐ 3 วิธีเบื้องต้นในการเลือกซื้อสายไฟเบอร์ออฟติกให้เหมาะสมกับการใช้งาน