ข้อแตกต่างระหว่าง Single-mode & Multi-mode
ข้อแตกต่างระหว่างสาย Fiber Optic : Single-Mode และ Multi-Mode ต่างกันอย่างไร
สายไฟเบอร์ออฟติก(Fiber optic cable)นั้นเป็นเส้นใย ที่ผลิตจากแก้วหรือพลาสติกที่มีคุณสมบัติโปร่งแสงและยึดหยุ่น ไฟเบอร์ออฟติกนั้นจะใช้เป็นเครื่องมือในการส่งแสงระหว่างต้นทาง ไปยัง ปลายทางของสายไฟเบอร์ออฟติก ซึ่งในการส่งสัญญาณแสงนั้นสามารถส่งผ่านได้ในระยะทางที่ไกลถึง 120 กิโลเมตรและมีแบนด์วิด(Bandwidth) ในการส่งสัญญาณจะสูงกว่าสายเคเบิลชนิดอื่นที่เป็นทองแดง โดยทั่วไปสายไฟเบอร์ออฟติกจะมีแกนกลางที่โปร่งใส เพราะผลิตจากแก้วและล้อมรอบด้วยวัสดุที่หุ้มด้วยวัสดุชนิดอื่นๆหลากหลายชนิด ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ตามลักษณะการใช้งานในแต่ละประเภท ในด้านการส่งสัญญาณแสงนั้น แสงจะถูกส่งผ่านแกนกลางของสายเคเบิล โดยจะเกิดการสะท้อนกลับของแสง(Reflection in optical)ซึ่งแกนกลางจะทำหน้าที่เป็นท่อนำแสง โดยทั่วไปสายไฟเบอร์ออฟติกจะแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ ชนิด Single-Mode และ Multi-Mode และความแตกต่างระหว่าง 2 ชนิดนี้คืออะไรมาติดตามได้จากบทความต่อไปนี้
Fiber Optic cable : ชนิด Single-Mode คืออะไร
สายเคเบิลสื่อสารไฟเบอร์ออฟติกแบบ Single-Mode (ตัวย่อ SM) ถูกออกแบบมาเพื่อนำแสงเดินทางเป็นทางตรงในระยะทางที่ไกล ไม่ว่าจะมีการส่งสัญญาณแสงที่ความเร็ว 10Mbps, 100Mbps หรือ 1000Mbps(1Gbps) ระยะทางเดินสายที่เหมาะสมเริ่มที่ 5 กิโลเมตร ถึง 120 กิโลเมตร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้สำหรับการส่งสัญญาณทางไกล
ส่วนประเภทของสาย ชนิด Single-mode ได้แบ่งย่อยได้ 2 ประเภท คือ ชนิด OS1, OS2 โดยจะแตกต่างเรื่องการใช้งานทั้งย่านความยาวคลื่นแสง 1310nm และ 1550nm และ ค่า Attenuation ในการเลือกใช้งาน
Name |
OS1 |
OS2 |
Standards | ITU-T G.652A/B/C/D | ITU-T G.652C/D |
Cable Construction | Tight buffered | Loose tube |
Application | Indoor | Outdoor |
Maximum Attenuation | 1.0dB/km | 0.4dB/km |
Distance | 10 km | 200 km |
Price | Low | High |
การส่งสัญญาณแสง ด้วยความยาวคลื่นที่ 1310nm และ 1550nm สำหรับสายฃนิด Single-mode นั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการส่งสัญญาณแบบ Step Index (ตามภาพด้านล่าง) แต่ปัจจุบัน ได้มีการเพิ่ม ย่านความถี่มาใหม่ เช่น 1490nm, 1625nm ในการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น
Fiber Optic : ชนิด Multi-Mode คืออะไร
สายเคเบิลไฟเบอร์ออฟติกแบบ Multi-Mode (ตัวย่อMM) ใช้สำหรับการสื่อสารในระยะสั้น เช่น ภายในตึก ,อาคาร ในส่วนของความเร็วและระยะทางนั้นมีข้อจำกัด มากพอสมควร เช่น การส่งสัญญาณที่ 100Mbps สำหรับระยะทางสูงสุด 2 กิโลเมตร , 1Gbps สำหรับระยะทางสูงสุด 550 เมตร และ 10Gbps สำหรับระยะทางสูงสุด 550 เมตร เป็นต้น
ลักษณะการส่งสัญญาณของสาย ชนิด Multi-mode จะเป็นทางภาพด้านล่าง
ความแตกต่างระหว่าง Fiber : Single-Mode vs Multi-Mode
อันดับแรกคือ Core Diameter
Single mode จะมีขนาด Core (แกนกลางที่ใช้ส่งสัญญาณแสง) คือ
- 9/125 µm (OS1, OS2)
Multi mode จะมีขนาด Core ในปัจจุบันอยู่ 2 ขนาด และ 5 ประเภท คือ
- 62.5/125 µm (OM1)
- 50/125 µm (OM2)
- 50/125 µm (OM3)
- 50/125 µm (OM4)
- 50/125 µm (OM5)
ข้อจำกัดระยะของสายในการเลือกใช้งาน ประเภท Multi-mode ในระบบ เครือข่าย Ethernet network
MMFCategory |
Fast Ethernet |
1Gbe |
10Gbe |
40Gbe |
100Gbe |
OM1 | 2000M | 275M | 33M | / | / |
OM2 | 2000M | 550M | 82M | / | / |
OM3 | 2000M | / | 300M | 100M | 70M |
OM4 | 2000M | / | 550M | 150M | 150M |
OM5 | / | / | 550M | 150M | 150M |
ลักษณะความแตกต่าง ประเภทต่างๆของสาย Multi-mode
MMFCable type |
Diameter |
Jacket color |
Optical Source |
Bandwidth |
OM1 | 62.5/125um | Orange | LED | 200MHz*km |
OM2 | 50/125um | Orange | LED | 500MHz*km |
OM3 | 50/125um | Aqua | VSCEL | 2000MHz*km |
OM4 | 50/125um | Aqua | VSCEL | 4700MHz*km |
OM5 | 50/125um | Lime Green | VSCEL | 28000MH*km |
Optical Light Source
ตัวส่งสัญญาณแสงนั้นจะมี ทั้งแสงแบบ Laser และ LEDs ถูกใช้เป็นแหล่งกำเนิดแสง ชนิด laser จะถูกนำไปใช้งานกับสายชนิด(SM:Single-mode)มากกว่าและจะมีราคาที่แพงกว่า LEDs อย่างมาก เพราะมีพลังงานสูงและควบคุมได้อย่างแม่นยำกว่า ,ส่วน LEDs จะถูกใช้งานกับสายชนิด (MM:Multi-mode)เป็นส่วนใหญ่ และลักษณะแหล่งกำเนิดแสงที่กระจัดกระจาย ไม่คงที่ ลองสังเกตรูปภาพ ด้านล่างเป็นหลักในการส่งสัญญาณแสง
Jacket Color
สีของเปลือกนอก (Jacket) ของสายเคเบิลจะถูกใช้เพื่อแยกประเภทระหว่าง Multi-Mode และ Single-Mode ตามคำแนะนำของมาตรฐาน TIA-598C (เฉพาะสายภายในอาคาร Indoor cable)
Single-Mode จะใช้เปลือกนอก(Jacket) เป็นสีเหลือง
Multi-Mode จะใช้เปลือกนอก(Jacket) อยู่หลายสีตามแต่ละประเภท หรือชนิดดังนี้
- OM1 จะใช้สี ส้ม
- OM2 จะใช้สี ส้ม หรือ เทา
- OM3 จะใช้สี ฟ้า
- OM4 จะใช้สี ฟ้า หรือ ม่วงชมพู
- OM5 จะใช้สี เขียว
ทั้งนี้สีของสายเคเบิลภายใน หรือสาย เชื่อมต่อชนิด Patch cord หรือ Pigtail เท่านั้นที่แบ่งประเภท หรือแล้วแต่ผู้ผลิตหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์จะผลิตขายสีที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่ได้กล่าว ข้างต้นคือ มาตรฐานสากล ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
ภาพแสดงสีของเปลือกภายนอก ของสายชนิดต่างๆ แบ่งตามประเภท
ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เรื่องคุณสมบัติของสายในแต่ละประเภท ทั้งชนิด Single-mode และ Multi-mode นั้น มีข้อแตกต่างกันอย่างชั้นเจน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่จำเป็นจะต้องรู้หลักการต่างๆ ของสายแต่ละประเภท เพื่อที่จะได้ออกแบบ ให้เหมาะกับ Applications การใช้งานต่างให้เหมาะสมและถูกต้อง พร้อมทั้งสามารถ ประหยัดงบประมาณ ของโครงการหรืองานต่างๆ ได้มากเช่นกัน
By: BISMON
e-mail:technical@bismon.com
Recomended Article : บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ
๐ Fiber Patch Panel vs UTP Patch panel ต่างกันอย่างไร
๐ วิธีตรวจสอบสายไฟเบอร์ออฟติกมีปัญหาเบื้องต้น How do you fault find Fibre optic cable?
๐ ความสำคัญของ Surge Protector สำหรับงานกล้อง CCTV